blog (บล็อก)
Blog Web log หรือเรียกสั้นๆ ว่า blog (บล็อก) เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะนำเวบไปใช้งานในรูปแบบอื่น ให้อธิบายง่ายๆ blog คือ ไดอารี่ออนไลน์นั่นเอง
เริ่มจากเราทำการสมัครสมาชิกของ blog หรือจะตั้งเซิร์ฟเวอร์เองก็ได้ แล้วก็เขียนเรื่องราวต่างๆ ตามใจชอบ โดย blog จะแสดงผลตามวันเหมือนกับไดอารี่ทุกประการ หลายคนอาจเกิดคำถามว่า แล้วจะเขียนเรื่องอะไรลงใน blog ของเราดีล่ะ อันนี้หลากหลายมาก (เหมือนกับเราเขียนไดอารี่นั่นแหละ) บางคนอาจจะบันทึกเรื่องที่เจอในแต่ละวัน บางคนอาจจะเขียนวิจารณ์ข่าวสารบ้านเมือง บางคนอาจจะแนะนำเวบไซต์ที่เจอมาในวันนั้น แต่งกลอน โพสรูปที่ไปเที่ยวมา หรือบางครั้งก็ร่วมกันเขียนเป็นทีม ขึ้นกับเจ้าของ blog ว่าต้องการเขียนไปในทางไหน
ทำไม blog ถึงมีค่าแก่การพูดถึง? อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว การเขียน blog ฟังดูธรรมดามากเลยใช่มั้ยครับ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสิ่งที่ฮิต และอินเทรนด์ที่สุดบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว ผมลองมานั่งนึกสาเหตุที่ทำให้ใครๆ ก็ติด blog มาได้หลายประการดังนี้ครับ
1. เขียน blog เหมือนกับเล่นเวบบอร์ด กฎข้อแรกของการสร้างเวบไซต์ให้ติดตลาด คือ ต้องทำให้ผู้ชมกลับมาเยี่ยมเวบของเราอีกให้ได้ และวิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุดคือ สร้างชุมชนของผู้ชม (Community) ให้เกิดขึ้นบนเวบของเรา เพราะเหตุนี้จึงทำให้เวบที่เน้นการสนทนาผ่านเวบบอร์ดอย่าง Pantip.com กลายเป็นเวบไซต์อันดับหนึ่งของเมืองไทยมาหลายปี blog เป็นการแสดงความคิดเห็นของเราให้คนอื่นอ่านวิธีหนึ่ง เพียงแต่เป็นเวบบอร์ดส่วนตัวที่คนเขียนคือเจ้าของ blog เท่านั้น (ผู้ชมสามารถแสดงความเห็นได้เป็น comment)
2. เขียน blog ไม่ต้องระวังเท่าเวบบอร์ด จุดอ่อนของเวบบอร์ดคือคนเยอะ และเมื่อเกิดความขัดแย้งกัน ก็จะทะเลาะกันใหญ่โต Pantip.com เจอปัญหานี้มากจนต้องตั้งระบบสมาชิกที่เข้มงวด ทำให้ลำบากในการสมัคร blog เข้ามาทดแทนในจุดนี้ได้พอดี เราสามารถเขียนอะไรลงใน blog ของเราก็ได้โดยไม่ต้องกลัวใครว่า ไม่ต้องกลัวข้อมูลมั่ว (เพราะว่าเป็น blog ของเรานี่นา) ทำให้หลายๆ คนเกิดความสบายใจในการเขียน blog มากกว่าเวบบอร์ดที่มีคนมาคอยเถียงหรือจับผิด
3. blog มีเนื้อหาต่อเนื่อง คนที่สนใจในเรื่องเดียวกันก็มักจะเข้าเวบบอร์ดเฉพาะเรื่อง แต่ปัญหาอีกอย่างของเวบบอร์ดคือ กระทู้ตกเร็ว และแต่ละกระทู้ไม่ต่อเนื่องกัน เพราะต่างคนต่างโพส แต่ blog นั้นเป็นของเจ้าของคนเดียว เขียนคนเดียว สามารถควบคุมความต่อเนื่องของเนื้อหาได้สะดวกกว่า ยิ่งเจ้าของ blog นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เราสนใจพอดี นี่จะสนุกมากเลยครับ ได้อ่านอะไรๆ ที่วงในเค้ารู้กันได้จาก blog นี่ล่ะ
4. มันก็เหมือนแอบอ่านไอดารี่คนอื่น การแอบอ่านไดอารี่เป็นอะไรที่ไม่ดีแต่สนุกมาก blog นั้นกลับกัน เป็นไดอารี่ที่อยากให้คนอื่นอ่าน ดังนั้นเจ้าของ blog จะประดิษฐ์ ประดอยหาเรื่องที่น่าสนใจมาเขียนให้อ่าน ทำให้เรื่องใน blog นั้นก็น่าสนใจมากขึ้น....
ที่มา: https://www.gotoknow.org/posts/52930*
คลังประโยชน์ของบล็อก
- คลังความรู้ มีความรู้มากมายให้ค้นหา ให้อ่านตามความสนใจ
- คลังมิตรภาพ เกิดการปฏิสัมพันธ์กันทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์จนกลายเป็นมิตรภาพดีๆ
- คลังแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงความคิดเห็น และต่อยอดความรู้ออกไป
- คลังแห่งความสุข เป็นที่ระบายความเครียด ช่วยผ่อนคลาย และเพิ่มความสุขในชีวิต
- คลังข้อมูล ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของสมาชิกที่สำคัญ ช่วยให้เจ้าของข้อมูลสามารถดึงดูดข้อมูลออกมาใช้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
- คลังเพื่อการฝึกฝน เป็นแหล่งฝึกฝนระบบการคิด ทักษะการเขียน และความสามารถด้านถ่ายทอดข้อมูลความรู้ต่างๆ และยังเป็นแหล่งฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้อย่างดีอีกด้วย
- คลัง KM ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีผู้เชียวชาญด้านการจัดการความรู้ (KM) มากมาย อีกทั้งสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการความรู้ (KM) ได้ง่ายเพียงแค่คลิก
- คลังประชาสัมพันธ์และกิจกรรมงานบุญ เป็นแหล่งประชาสัมพันธ์กิจกรรมดีๆ เพื่อสร้างสรรค์สังคมมากมาย
- คลังแห่งองค์กรต่างๆ บางองค์กรเลือกเว็บไซต์ GOtoKnow.org เป็นเครื่องมือเพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
- คลังเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันทั้งทางออนไลน์ จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน พบว่าเกิดกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ช่วยสอนวิธีการใช้งานบล็อก
- คลังความรู้ฝังลึก อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ที่มี่เป็นคลังความรู้ มีสารประโยชน์ต่างๆ มากมายให้เลือกอ่าน และที่สำคัญความรู้ส่วนใหญ่นั้นเป็นความรู้สึกฝังลึกที่ซ่อนอยู่ ในตัวคนทุกคนนั่นเอง ที่นี่จึงกลายเป๋นคลังความรู้ฝังลึกที่ใหญ่มาก และถ้าหากสามารถสกัดความรู้ฝังลึกเหล่านี้ให้กลายเป็นความรู้ชัดแจ้งได้ ที่มี่กลายเป็นคลังแก่นความรู้ได้ต่อไป
ทั้ง 11 ข้อ เป็นปะโยชน์ที่เกิดจากการสกัดข้อมูลออกมาจากบันทึกจำนวนมาก และแน่นอนว่าประโยชน์ของบล็อกไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีอีกมากมายหลากหลายข้อ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าสามารถนำบล็อกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใดนั่นเอง
วิธีการสร้างบล็อค
เมื่อล็อกอินเข้ามาจะเจอหน้าแบบนี้นะ
บางที สำหรับคนที่สมครแลเวใช้งานครั้งแรก อาจจะมีการกรอกเบอร์มือถือ เพื่อส่งรหัสยืนยันการทำบล็อกก็อย่าตกใจ กรอกให้ครบ

ต่อกันเลย
คลิกเข้าไปก็จะได้ภาพมาดังนี้
เมื่อเลือกภาพได้แล้ว คลิกที่ เสร็จสิ้น
ตัวเอย่าง ก็จะได้ภาพพื้นหลังตามที่เราต้องการ
เสร็จแล้วเราสามารถมาเลือกรูปแบบ ของ หน้าบล็อกเรา
ให้เราลองเลือกดูเรื่อยๆ อันไหนถูกใจ ก็นำมาใช้กับบล็อกเลย
ซึ่งพอเราเลือก ก็จะได้หน้าตาออกมาดังนี้
สำหรับการทำหัวเรื่องหรือเฮดเดอร์นั้นก็ไม่ยาก
(กลับไปที่ เมนูออกแบบ ดูที่เขียนวว่า ส่วนหัว คลิกแก้ไข)
เราก็จะได้เฮดเดอร์ตกแต่งให้กะบล็อกของเรา
จากกนั้น ถ้าเราต้องการ ใส่โค้ดของตกแต่ง
พอบันทึกเสร็จ เราก็จะได้ ไอเทม เสริมบล็อกของเรา
ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา หรือ ปฏิทิน หรือรูปภาพ
ซึ่งเราสามารถใส่ ส่วนประกอบของบล็อกเราได้อีก ซึ่งมีให้เลือก
ที่มา : http://www.dek-d.com/board/view/2017167/
วิธีการใส่ลูกเล่นและตกแต่ง Blog
วิธีการ เปลี่ยนเทมเพลต
สำหรับคนที่ไม่พอใจ ในเทมเพลตแรกเริ่มที่เลือกมาแล้วอยากเปลี่ยนเทมเพลตสามารถทำได้ดังนี้![]() |
1. ให้เราคลิกที่ "แม่แบบ" แล้วเลื่อนลงมาข้างล่าง |
![]() |
2. สามารถเลือกเทมเพลตได้จากข้างล่างนี้ |
![]() |
3. หากต้องเจอเทมเพลตที่ต้องการแล้ว ให้ชี้ที่เทมเพลตนั้นๆ แล้วจะมีป๊อบอัพเด้ง ขึ้นมาให้ดูหน้าตาเทมเพลตของเรา ถ้าต้องการเทมเพลตนี้ กด "ใช้กับบล็อก" |
![]() |
4. รอจนกว่าจะมีคำเล็กๆ ขึ้นว่า "ใช้กับบล็อกแล้ว" |
![]() |
5. เราสามารถดูเทมเพลตของเราได้โดยการกด "ดูบล็อก" |
![]() |
6. เราจะได้เทมเพลตใหม่ของบล็อกเราตามที่เราต้องการ เป็นอันเสร็จสิ้นการเปลี่ยนเทมเพลต |
วิธีการ ตกแต่งเทมเพลต
เชื่อว่าหลายๆคน ยังไม่พอใจกับ เทมเพลตที่เรามีอยู่อยากทำให้ดูดีกว่าเดิม เราสามารถทำได้ดังนี้![]() |
1. ไปที่ "แม่แบบ" แล้วกด "กำหนดค่า" |
![]() |
2. จะเจอหน้าแบบนี้ เราสามารถปรับเปลี่ยน Blog ของเราได้ มากมาย |
![]() |
3. อย่างแรก เทมเพลต เราสามารถเลือกเทมเพลตได้จากในกรอบแล้วดูตัวอย่างที่ด้านล่าง |
![]() |
4. พื้นหลัง ใช้สำหรับปรับเปลี่ยนสีพื้นหลังของเรา ว่าอยากได้สีอะไร |
![]() |
5. ปรับความกว้าง เราสามารถปรับเปลี่ยนระยะขอบความกว้างได้โดยการเลื่อน แล้วดูความเปลี่ยนแปลงจากด้านล่าง |
![]() |
6. รูปแบบ ในส่วนนี้ เราสามารถเคลื่อนย้ายจัดตำแหน่ง สิ่งที่อยู่ใน Blog ของเราได้ |
![]() |
7. ขั้นสูง ใช้เปลี่ยนสี เปลี่ยนFont ฯลฯ ในส่วนต่างๆ ของBlog |
![]() |
8. เมื่อเราได้ตามที่เราต้องการแล้วให้กด "ใช้กับบล็อก" |
![]() |
9. รอจนกว่าจะขึ้น ใช้แม่แบบแล้ว จึงกด "กลับสู่ Blogger" |
วิธีการ เพิ่มของตกแต่งในบล็อก
![]() |
1. ไปที่ "รูปแบบ" |
![]() |
2. หาของตกแต่งจาก เว็บต่างๆ แล้วCopy Code |
![]() |
3. กลับมาที่หน้ารูปแบบ กด "เพิ่ม Gadget" คลิก "HTML/วาจาสคริปต์" |
![]() |
4. ใส่ Code ที่ Copy มา ตรงช่อง "เนื้อหา" แล้วกด "ยืนยัน" |
![]() |
5. กด "บันทึกการจัดเรียง" รอจนขึ้น "การเปลี่ยนแปลงของคุณถูกบันทึกแล้ว" กด "ดูบล็อก" |
![]() |
6. จะพบกับของตกแต่งที่เราใส่ให้ Blog ของเราใส่ส่วนนั้นๆ เป็นอันเสร็จสิ้น |
วิธีการสร้าง blogger
วิธีการตกแต่ง blogger